วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เก้าอี้กระดาษงานบ้านและสวน ไปถึงรถยนต์ไฟฟ้า

ผมไปงานบ้านแล้วสวนประจำปีนี้มา

จริงๆก็ไม่แปลกนะเพราะผมไปทุกปี คนในวงการออกแบบอย่างผมมักไปกันเสมอเพื่ออัฟเดฟความรู้ใหม่ๆด้านการออกแบบให้ทันสมัยเสมอ ปีนี้ก็เช่นกันผมและภรรยาคนแรก คนเดียว และไม่มีคนอื่น ซึ่งมีเธอคนเดียวจริงๆให้ฟ้าผ่าตายเถอะ เธอคนนี้ละไปเดินในงานด้วยกัน

ปีนี้ผมตั้งใจจะดูอะไรใหม่ๆจริงๆไม่เหมือนทุกปีที่แวะทุกบูต เอาละผมมีรูปนวัตกรรมด้านการออกแบบใหม่ๆมาเยอะ เอาว่าจะทยอยลงนะครับ

แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นและน่าคิด นั้นคือ เก้าอี้

เป็นเก้าอี้ที่ทำด้วยกระดาษลัง(ขอใช่ภาษาชาวบ้าน) นัยว่าออกแบบเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ...........

ผมมองดูแล้วถามภรรยาสุดที่รัก(ก็มีคนเดียวนะ จะรักใครได้)

"ก้าอี้นี้เขาทำไปทำไมอะ"
"อนุรักษ์ธรรมชาติไง กระดาษย่อยสลายได้แล้วรีไซค์เคอร์ได้ใหม่ด้วย"

ผมพยักหน้ารับ ภรรยาผมเป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกภาษาการตลาดหลอกเรื่องอนุรักษ์

หลายคนอาจมองว่าเก้าอี้กระดาษนั้นอนุรักษ แทนจริงไม่ใช่เลย

จะว่าไหมหากผมจะบอกว่าเก้าอี้พลาสติกอนุรักษ์กว่า

เอาผมถามทุกท่านที่เชื่อว่าเก้าอี้กระดาษอนุรักษ์กว่า

เก้าอี้กระดาษนั้นใช่ได้กี่วัน ผมมองว่ามันจะใช่ได้ไม่เกิน 2 วัน มันจะเก็บความชื้นจากน้ำที่เช็ดพื้น อากาศก็มีผล

เพียง 2 วันเราต้องนำมันกลับไปรีไซค์เคอร์ใหม่..........
สมมุติเราจะใช่มันให้ได้ 1 ปี 365 วัน


เราต้องรีไซค์เคอร์ทั้งหมด 182 ครั้ง.......หากครั้งหนึ่งเราต้องใช่พลังงานจากน้ำมัน 1 ลิตร

เท่ากับเราใช่น้ำมันไป 182 ลิตร

เอาละเก้าอี้พลาสติก

หากคุณใช่ดีๆมันเกินปีนะครับ ผมเหมาว่าใช่ทุกวันแบบร้านตามริมทางที่มักจะเปลี่ยนเก้าอี้พลาสติกปีละครั้ง

สมมุติเราจะใช่มันให้ได้ 1 ปี 365 วัน

เราต้องรีไซค์เคอร์ทั้งหมด 1 ครั้ง.......หากครั้งหนึ่งเราต้องใช่พลังงานจากน้ำมัน 1 ลิตร

เท่ากับเราใช่น้ำมันไป 1 ลิตร

เอาละที่นี้ เก้าอี้พลาสติก กับ เก้าอี้กระดาษ อะไรรักษ์โลกมากกว่า.......

ผมมองดูภาษาทางการตลาดที่ใช่อยู่ทุกวันนี้ที่เอากระแสอนุรักษ์ธรรมชาติมาใช่แล้วน่าคิด มันทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรกษ์ผิดไปมาก มากจนน่ากลัวที่เดียว

อย่างตะเกียบที่เดียวนี้ทุกคนหันมาใช่ตะเกียบไม้ นัยยะว่าอนุรักษ์กว่าตะเกียบพลาสติก

แต่

ตะเกียบไม้นั้นมีอายุการใช่งานไม่เกิน 2 ปี มันจะขึ้นราและต้องทิ้ง แล้วจากนั้นมันจะใช่เวลา 24 ปีในการย่อยสลาย......... นี้ผมไม่นับรวมแบบใช่ครั้งเดียวทิ้งนะ

ในขณะที่ตะเกียบพลาสติกอายุการใช่งาน 5 ปี รีไซค์เคอร์ได้ ส่วนตะเกียบโลหะ ในพิพิธภัณฑ์มันสภาพพร้อมใช่งานได้เกิน 100 ปี

ตะเกียบไม้อนุรักษ์

ผมนึกถึงกระแสอนุรักษ์หลายๆอย่างที่ทำกันจนความจริงผิดเพี้ยนไป และรถไฟฟ้าเป็นหนึ่งในนั้น

จะว่าไปมันคือมหกรรมการหลอกลวงว่าอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้

หลายคนอาจเถียงผมว่า รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่น้ำมัน ไม่ปล่อยไอเสีย อนุรักษ์ธรรมชาติไม่ทำโลกร้อน

แต่.......

รถไฟฟ้ามันใช่พลังงานไฟฟ้า

แล้วไฟฟ้ามาจากไหนถ้าไม่ใช่โรงงานและเขื่อน...........

รถยนต์ไม่ปล่อยไอเสีย แต่โรงงานไฟฟ้าปล่อยไอเสียแทนใช่หรือไม่?

ความจริงคือเมื่อรถไฟฟ้ามากขึ้น โรงงานก็มากตาม

แล้วนี้คือการรักษ์โลกจริงหรือ???

หรือแท้ๆแค่ภาษาการตลาดหลอกขายสินค้าเรา

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

มาเลย์ไม่ใช่กัมพูชา.........ไม่ง่ายนะครับลุงจิ๋ว

หลายคนกำลังพูดถึงการไปมาเลย์ของบิ๊กจิ๋ว ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรและจะมีปัญหาอะไรตามมาบ้าง โดยส่วนตัวผมเองไม่ค่อยกังวลนัก จะว่าไปผมกังวลว่าปัญหานั้นๆจะเกิดกับทางทักษิณมากกว่า......

ทุกๆชาติในโลกนั้นล้วนมีการเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของชาตินั้นๆ และมีพัฒนาการเป็นของตนเอง

การที่ลุงจิ๋วไปมาเลย์นั้นผมมองว่าพลาดอย่างมาก.........

การเดินทางไปประเทสเพื่อนบ้านของลุงนั้นตอนนี้ใครๆก็มองออกครับ ว่าต้องการให้ประเทศเพื่อนบ้านเลือกข้าง แล้วบีบรัฐบาลไทย เพื่อทักษิณ

กัมพูชามันง่ายเพราะไม่มีอะไรเปลี่ยนจากที่ลุงรู้จัก คนเดิม คณะเดิม อะไรเดิม

แต่

อาเซียนหลายประเทศได้ก้าวผ่านคำว่า "หนึ่งประเทศ หนึ่งบุคคล" ไปแล้วครับ

ในอดีตมันเป็นความจริงครับ ที่คุยกับผู้นำแล้วเท่ากับคุยกับสภาและประเทศ

แต่

วันนี้ในหลายๆประเทศไม่ใช่แล้วนะครับ

ลุงครับนายกสิงคโปร ขึ้นเงินเดือนตัวเอง ถ้าเมื่อก่อนคงได้และคงไม่มีใครว่าอะไร

แต่ เร็วๆนี้แกทำแบบนั้นแล้วโดนวิจารณ์ผ่านเน็ต จนต้องมอบส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมาแก่การกุศล

อาเซียนหลายๆประเทศเปลี่ยนไปแล้วครับลุง.........

ตอนลุงกลับมาจากกัมพูชา ผลที่ได้รับทำผมตกใจเหมือนกัน แต่ลุงครับพอลุงบอกจะไปมาเลย์แล้วคุยกับนายกเพราะเคยเป็น รมต กลาโหมเหมือนกัน

ผมยิ้มเลย........ลุงยังคงคิดแบบเดิมๆ

มาเลย์เปลี่ยนไปแล้วครับลุง เปลี่ยนไปจากความเข้าใจแบบเดิมๆของลุงเยอะ และเยอะมากกกกกกกกกก

มาเลย์ในยุค มหาเธ่

ผมจำได้ลุงเรียกแกว่า Brother เป็นยุคที่ ผู้นำคือชาติ

แต่ มันเปลี่ยนไปแล้ว ลุงรู้ไหม?นายกถัดจากมหาเธ่คือ บันดาวี แกถูกปลดโดยพรรคหลังชนะการเลือกตั้ง

น้อยมาก

น้อยจนฝ่ายค้านมีเสียงมากพอจะอภิปายไม่ไว้วางใจในสภา..........ชาวมาเลย์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า

ซึนามิ ทางการเมือง

นั้นทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป การเมืองในมาเลย์เปี่ยนไปตลอดกาล

ลุงสังเกตไหม?มหาเธ่โดนพรรคเขาเล่นงานอย่างไร

เมื่อออกมาวิจารณ์การทำงานรัฐบาล

ลุงสังเกตไหม?บันดาวีถูกปลดโดยพรรค
เมื่อทำพรรคตกต่ำ

ลุงสังเกตไหม?วันนี้พรรครัฐบาลที่เคยได้ 70-80% ของทั้งสภาวันนี้มีคะแนนเพียง 55-60%

นั้นทำให้เขาเล่นการเมืองเปลี่ยนไป

เขาไม่สามารถทำอะไรได้ดั่งใจอีกแล้ว เขาไม่ได้สามารถทำให้คำพูดเปลี่ยนไปเป็นกฏหมายได้อีกต่อไบ

นี้คือความจริง

มาเลเซียในยุคนี้จึงเป็นยุคของ คณะบุคคล ไม่ใช่บุคคลอีกต่อไป

การกระทำใดๆของนายก มาเลย์จึงอาจทำให้เขาหลุดจากตำแหน่งได้ง่ายๆเลยทีเดียว..........

นั้นทำให้เราได้เห็นทักษิณไปขอพบกับนายก มาเลย์เมื่อหลายเดือนก่อน

โดนไล่ออกมา.............

ตอนนั้นนพดลออกมาบอกว่ารัฐบาลมาเลย์ให้การรับรองอย่างดี

แต่

ตำรวจเขาบอกหากแวะมาจะส่งตัวกลับไทย
แถมสำนักข่าว Bernama ของรัฐบาลใช่คำเรียกทักษิณว่า

fugitive ผู้หลบหนี แทนที่จะเป็น Former PM อดีตนายก

มาเลย์ไม่ใช่พม่า เขามีอะไรหลายอย่างที่ไม่ชอบทักษิณ

มาเลย์เกลียดสิงคโปร แต่ทักษิณเอาสิงคโปรอย่างชัดเจน

ความไม่สงบในภาคใต้ตอนล่างทำให้คนถาคใต้ตอนล่างไม่เลือกคนของทักษิณมา 3 สมัยแล้ว

ใครเลือกอยู่กับทักษิณเขาไม่เอาหมด ถามนายนัฐวุธก็ได้ครับลุง เขาไปสอบตกเพราะไปลงปาร์ตี้ลิสที่ภาคใต้ตอนล่าง

แล้วลุงคิดดู นั้นตัวจริงเขายังไม่เอา

ลุงที่เป็นตัวแทนละ?

มาเลย์เขาก็รู้นะครับลุง ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าลุงไปในฐานะอะไร ทั้งทางการและไม่ทางการ

ลุงรู้ไหม?ตอนนี้ในพรรครัฐบาลมาเลย์เขาก็มีสงครามภายในกันอยู่

ลุงรู้ไหม?ตอนนี้ในมาเลย์เอง พรรครัฐบาลนอกจากจะสู้กับพรรคฝ่ายค้านที่นำโดย อันวา แล้ว

เขายังสู้กันเองระหว่างคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า

คนรุ่นใหม่เขามองความล้มเหลวว่ามาจากคนรุ่นเก่าที่ปลดอันวา และเลือกบันดาวี เลยแพ้การเลือกตั้ง

คนรุ่นใหม่เขากำลังแก้ตัวโดยนำ ราจิบ หลานนายกมาเลย์คนแรก มาเพื่อเรียกคะแนนเก่าๆกลับมา

วันนี้เขารบกันขนาดนี้ เชาจะเอาคนข้างนอกอย่างลุงหรือนายของลุงมาทำให้ตัวเองมีบาดแผลทำไม?

มาเลย์ไม่ได้โง่นะลุง

ข่าวหลุด ตำรวจขอหมายจับ 4 ตัวการปล่อยข่าว ทุบหุ้น

ตำรวจขอหมายจับศาล 4 ตัวการปล่อยข่าว "ทุบหุ้น" แล้ว...ใครเป็นใครได้รู้กัน

จาก http://twitter.com/suthichai

ซึ่ง ขณะนี้ในทีวีช่อง 3 ช่วงสรยุทธได้มีการพูดถึงแล้วและเชื่อว่าจะเอาผิด 2 กรณีในเรื่องความมั่นคงและ พรบ คอมพิวเตอร์กับผู้ที่ปลดทางเน็ตฯ

เชื่อว่าไม่เกิน 9 โมงเช้าวันนี้คงรู้ชัดๆว่าใคร และเป็นคนที่คิดกันหรือไม่

อย่างไรก็ดีการที่ข่าวหลุดก่อนต้องน่ากังวลว่า...ผู้ต้องหาจะหนีหรือไม่

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ถึงประเทศไทยจะล่มจม....ผมก็ยังเหมือนเดิม

"คุณกำลังสู้กับใคร......"

เพื่อนชาวจีนคนหนึ่งถามผมหลังคุยกันเรื่องทักษิณ

"ทำไมละ?"

ผมถามพลางรินชาวมะลิที่เขาเอามาฝากให้เขา

"นายรู้ไหม หากทักษิณแพ้ เขาก็อยู่ต่างประเทศ"

ผมพยักหน้ารับ

เขาจิบชาก่อนจะมองหน้าผม

"แล้วมันต่างอะไรจากตอนนี้ละ หากแพ้เขาก็ยังเหมือนเดิม จริงๆต่อให้เขาชนะประเทศล่มจมจนพื้นไม่ได้
เขาก็สามารถเลือกที่จะอยู่เหมือนเดิมได้
พูดง่ายๆคือ

ถึงประเทศไทยจะล่มจม....ผมก็ยังเหมือนเดิม"
ผมเริ่มเข้าใจที่เขาบอก

ใช่แล้ว เราคิดเสมอว่าเขาสู้เพื่อเงินของเขาในประเทศ ทั้งๆที่ตอนนี้ไม่มีมันเขาก็อยู่ได้สบายดี
ลูกเมียก็ยังบินไปหาได้ตามปกติ

ในความจริงแล้ว..............ต่อให้เขาแพ้

เขาก็ยังมีสภาพเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป

ความสัมพันธ์ไทย เขมรจะแย่ในอนาคต ก็ไม่เกี่ยวกับเขา

เช่นนั้นแล้ว วิธีการต่อสู้ที่เขากระทำต่อคู่แข่งทางการเมือง ไม่ว่าจะอภิสิทธิ์หรือใคร

อาจหมายถึงการทำลายประเทศเพื่อให้ย่ำแย่ ให้อภิสิทธิ์ดูไม่ดีก็ได้.......................

เพราะชนะ เขาได้กลับมาและได้เงิน

หรือเอาแต่เงินไม่เอาอะไรแม้แต่อำนาจจากประเทศที่เขาทำลาย......



ต่อให้เขาแพ้............เขาไม่เสียอะไรเลย

ยุทธการที่เราใช่สู้กับเขา..........

เราไปคำนึงว่าเขาหวงเงินเขา
และหวงอำนาจเขาในชาติใช่ไหม?

ในความจริงแล้ว เขาอาจไม่ต้องการอำนาจในชาตินัก

เพราะชาติที่ถูกทำลายไปแล้ว เขาจะเอามันไปทำไม..............

ผมนึกไปถึงอิศรอเอล หลังถูกอาหรับบุก

เขารบชนะภายใต้ความช่วยเหลือของอเมริกา

แต่

หลังเขาชนะเขาก็พบว่า อาหรับที่แพ้ก็ยังคงเป็นอาหรับเช่นดิม พูดง่ายๆก็คือรบอีก 10 ครั้งต่อให้อาหรับแพ้เขาก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนไป แต่แพ้เพียงครั้งเดียวอิสรอเอลจะหายไป

นั้นนำมาซึ่งการมีนิวเคลียร์....เพื่อรับประกันความอยู่รอดของชาติ

ผมไม่แนะให้เรามีนิวเคลียร์...............แต่
บางทีเราควรมีบางอย่างเพื่อปกป้องชาติ จากชายที่ไม่ต้องกลัวว่าชาติจะเสียอะไร

ตึกไม้อัด.......สูง 60 ชั้น

ผมร๊ากกกกกกก รักสถาปนิกซื่อดังคนนี้มาก

ไอ เอ๊ม เป(I M Pei)

ผมชอบงานออกแบบแกมากครับ จะว่าไปเป็นหนึ่งในใจผมเลย หลายคนอาจไม่รู้จักแกนะครับ แต่หากพูดถึงออกแบบแกหลายคนอาจรู้จักดีเช่น
ปีรามิคแห่ง ลูฟ ฝรั่งเศษ
หรือ แบงค์ ออฟ ไซน่าที่ ฮ่องกงก็ผลงานแก

และแกเคยออกแบบตึกสูง 60 ชั้นที่เป็นไม้อัด..........คือตึกนี้ครับ
บางคนบอก sigree นี้มันตึกกระจก นายบ้าไปแล้วเหรอ ไม่มีใครเอาไม้อัดมาทำตึกหรอก ยิ่งตึกสูงด้วย
ครับผม
แต่ตึกนี้ละครับเคยถูกเรียกว่า Plywood Tower- ตึกไม้อัด

ทำไมหรือ?

เพราะมันเคยถูกปิดด้วยไม้อัดแทนกระจกครับ............มะผมมีรูป



ที่เห็นเป็นจุดๆสีส้มนั้นละครับไม้อัดครับ และข้างล่างปิดขนาดนี้ครับ
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมมันจึงต้องปิดด้วยไม้อัดแทนที่จะเป็นกระจก คำตอบเรียบง่ายมากครับ

การบิดตัว



การสร้างอาคารสูงนั้น จะมีแรงมาปะทะอาคารครับ ทั้งแรงลม หรือแม้แต่แผ่นดินไหว
จริงๆแม้แต่แดดก็ทำให้อาคารบิดตัวได้ เพราะความร้อนทำให้โครงสร้างเหล็กขยายตัวจากขนาดเดิม....

ซึ่งทั้งหมดล้วนทำให้อาคารบิดตัว และการบิดตัวนี้เองทำให้การติดกระจกต้องติดให้ขยับได้ตามการบิดไปมาของตึกด้วย

แต่อาคารหลังนี้ไม่ได้เตรียมไว้ ผลคือกระจกที่หลุดตกลงมาจากอาคารจำนวนมาก

ระหว่างหาวิธีติดกระจก จึงมีการนำวัสดุที่ยืดได้นิดหน่อยมาปิดแทนกระจกไปก่อน และนั้นคือ......ไม้อัดครับ

จนเมื่อหาวิธีได้ อาคารนี้ก็ปิดด้วยกระจกหมดตามที่ออกแบบครับ แต่ก็นั้นละ

สถาปนิกระดับโลกคนนี้แกก็ได้ผลงานออกแบบที่เป็นรอยด่างในประวัติการทำงานแกเช่นกัน

แต่นะครับ ผมก็ยอมรับว่าอาคารนี้งดงามจริงๆ.............หลายคนอาจสงสัยว่างดงามอย่างไร
ต้องบอกก่อนว่าอาคารนี้ตั้งอยู่ที่ บอสตันครับถือเป็นอาคารที่สูงที่สุดในบอสตัน เป แกออกแบบให้อาคารหลังนี้ถึงสูง แต่กลมกลืนไปกับเมืองครับ ดั่งรุปข้างล่างที่มันดูกลืนไปในท้องฟ้า
ดูภาพบนนะครับนอกจากนี้แกยังบิดมุมของตึกครับ ทำให้เป็นรูปขนมเปียกปูน เพื่อรับกับโบสถ์เก่าที่มุมล่างซ้าย ทำให้เหมือนมีอาคารโบราณแห่งนี้ 2 หลังครับ
ผลเป็นดั่งภาพข้างล่างครับ

เวลาคนเดินผ่านจะสร้างบรรยากาศพิเศษแก่เมือง


นอกจากนี้เมื่อมองไกลๆ มันจะกลืนกับเส้นขอบฟ้าราวกับมองทะลุมันได้ครับ

































สังเกตนะครับ มันเหมือนเรามองทะลุมันได้ นี้เองความกลมกลืนที่สถาปนิกวางแผนไว้ครับ ให้อาคารกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม มันเป็นอาคารที่สวยงามหลังหนึ่งของโลกครับ ถึงมันจะเคยปิดด้วยไม้อัดก็ตาม

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552

พม่ากับทักษิณ เรื่องง่ายที่ไม่ง่ายอีกต่อไป

"ถ้ามีหลายคนพูดถึงออง ซาน ซูจี ในพม่า และคำพูดเขาไม่ถือว่าเป็นการแทรกแซง ทำไมข้าพเจ้าพูดถึงทักษิณไม่ได้ ทั้งที่ทักษิณก็ตกเป็นเหยื่อการเมืองเหมือนกัน"

วาทะเด็ดของฮุนเซนกำลังสร้างความขุ่นเคืองแกชาวพม่าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวพม่าบริเวญชายแดนไทยที่ออกมาวิจารณ์อย่างๆม่พอใจ

นายหม่อง หม่อง ยี อดีตนักศึกษาพม่า ที่ชายแดนไทย-พม่า จ.ตาก กล่าวว่า นางอ่องซาน ซูจี เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่อยู่ในประเทศของตนเองมาตลอด ไม่เคยคิดออกนอกประเทศ แม้ว่า รัฐบาลทหารพม่าจะให้ออกนอกประเทศก็ตาม แต่นางไม่ยอมออกไป และต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่มีผลประโยชน์ใดๆแอบแฝง ต่างกับพ.ต.ท.ทักษิณมาก จะมาเทียบชั้นกันไม่ได้
(จาก เนชั่น)

ซูจี ได้รางวัล โนเบล สาขาสันติภาพในปี 2534 จากการเรียนร้องประชาธิปไตยในพม่า และไม่ยอมออกจากประเทศแม้จะออกได้เพราะเธอทราบดีว่ารัฐบาลพม่าจะไม่ให้เธอกลับเข้ามา

การตัดสินใจอยู่ในประเทสทำให้รัฐบาลทหารพม่าสั่งจำขังเธอในบ่านของเธอเอง เพื่อไม่ให้เธอออกไปเผยแพ่รแนวคิดประชาธิปไตย

โดยเธอถูกจองจำในบ้านตัวเองตั้งแต่ปี 2532 ในวันที่เธอได้โนเบลเธอก็ไม่มีสิทธิ์ออกไปรับ..........

เธอเป็นที่รวมจิตใจของชาวพม่าทั้งหลาย และยังเป็นสัญญาลักษณ์ของการต่อสู้แบบอหิงสาในพม่าด้วย

การหยิบเธอมาพูดเปรียบกับทักษิณของฮุนเซนนั้น..............ถือว่าผิดพลาดอย่างมาก

ทั้งจากตัวฮุนเซนเอง หรือ แม้แต่ เชาวลิต

อย่างที่เห็นแล้วตอนนี้คือ คนหม่าที่นับถือ ซูจี ยอมรับการเปรียบเทียบเธอกับนักโทษหนีคดีไม่ได้

และออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง

ส่วนในทางเดียวกัน รับบาลทหารพม่า ซึ่งเป็นผู้จองจำ ซุจี เองก็ยอมรับไม่ได้จากคำพูดที่ว่า

ถ้ามีหลายคนพูดถึงออง ซาน ซูจี ในพม่า และคำพูดเขาไม่ถือว่าเป็นการแทรกแซง

ไม่มีรัฐบาลใดไม่ว่าจะประชาธิปไตยหรือไม่ จะชอบการแทรกแซง.................

และเห็นจากงานนี้พม่าไปไปข้องแวะหาเขมรเลย.........

เริ่มเกมส์ก็พลาดเสียแล้ว แล้วนี้จะไปพม่ายังไงดีละจิ๋ว..........เอาผู้นำต่างชาติฉลาดๆมาใช่ก็แบบนี้ละ

กัมพูชาเสริมรถถัง-แซมติดชายแดนไทย...... ตามสะดวกครับ ว่าแต่ขับมาถึงแน่นะ

รวมทั้งอาวุธหนักอื่นๆ และทหารอีก 1 กองพันตรึงรอบปราสาทเขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยยังอยู่ในภาวะปกติ รอดูท่าทีไม่ลด และเพิ่มกำลังพล...

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชันและภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณี เขาพระวิหาร ประกาศกร้าวให้กัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายใน 7 วัน หากเพิกเฉย จะนำมวลชนปิดล้อมสถานทูตในประเทศไทยในวันที่ 2 พ.ย.นี้นั้น

ผู้ สื่อข่าวรายงานอ้างแหล่งข่าวในพื้นที่เขาพระวิหาร ระบุว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา วันนี้ (24 ต.ค.) ฝ่ายกัมพูชาได้มีการเสริมกำลังนำรถถังรุ่นใหม่ เคลื่อนเข้ามาประชิดแนวชายแดนบริเวณซำแตร ตรงกับบ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งอาวุธหนัก เครื่องยิงจรวดแซม ส่วนทางด้านกองพลน้อยที่ 42 ของฝ่ายกัมพูชา ได้เสริมกำลังเข้ามาอีก 1 กองพัน จำนวน 340 คน มาตรึงกำลังบริเวณตลาดและรอบปราสาทเขาพระวิหาร

รายงานข่าวแจ้งว่า ทาง ด้านทหารไทยยังไม่มีการเสริม และลดกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่แต่อย่างใด เพื่อไม่ให้เกิดความตรึงเครียดขึ้นในพื้นที่ สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังคงปกติ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวของฝ่ายไทย รอดูท่าทีของรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

http://www.thairath.co.th/content/region/42002
.........................................................................

เอ๋ย.............งไม่อยากพูดครับเพียงแต่...............ผมดันมีภาพตอนเขาสวนสนามแล้วเอารถถังมาแสดง



ซึ่งการสวนสนามนี้มีเมื่อวันที่ 30 มิย ปีนี้เอง งานนั้นเขาต้องการแสดงว่าเขามีอาวุธที่สามารถสอยเครื่องบินรบของบ้านเราได้

มันบังเอิญว่าเขาโชว์รถถังของพวกเขาด้วย................


โอ้พระเจ้า ................... เราต้องกลัวดีไหม?

เท่าที่ผมคุยกับเพื่อนที่เล่นโมเดลพวกเรือรบเขามองแล้วเกาหัวบอกผมว่า

เก่ามากกกกกกกกกก มากขนาดที่เขาดูรุ่นกันไม่ออกทีเดียว

แฟนผมเธอดูรถถังแล้ว มองเหล็กบางๆถึงกับถามผมว่า

"เอาสังกะสีมาทำเหรอ?"

ไม่ได้ดูถูกนะครับ แต่เหมือนเคาะพ่นสีใหม่มากกว่า และเท่าที่ดูมันไม่ใช่รุ่นใหม่และยากจะใช่เสียด้วยสิ

เอารุ่นนี้มาประชิดเราจริงๆเหรอ?? ถ้าจริงก็..................:-)

ตามสะดวกครับ ว่าแต่ขับมาถึงแน่นะ

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ฮุนเซนปากเสีย แค่เริ่มเกมส์เท่านั้น

วันนี้ผมกับภรรยาไปหาซื้อทรายให้ลูกสาวคนเล็ก

ผมกับภรรยาเรายังไม่มีลูกกันจริงๆหรอกนะครับ ตอนนี้เราเลยเลี้ยงแมวแทนลูกไปก่อน

เจ้า Point มาอยู่กับเราได้เกือบๆเดือนแล้วครับนานพอจะทำให้ทรายในห้องน้ำส่วนตัวคุณเธอหมดจนผมและภรรยาออกไปซื้อทรายให้ลูกสาว

ผมได้ฟังวิทยุข่าวไประหว่างทางพลางคิดไป วิทยุวันนี้ว่าด้วยเรื่องวิวาทะของนายก ฮุนเซน(งดเติมสมเด็จ ประเทศไทยใช่คำกับเชื้อพระวงศ์ และผมคนไทย ไม่มีกระใจจะใช่คำนี้ตามเขมร)

ผมพยามประติประต่อเรื่องราวและหาปมที่ซ่อน

แต่ดูเหมือนรอยต่อบางอย่างขาดหายไป และไม่มีทีท่าจะต่อเนื่องเรื่องราวได้.............

ผมซื้อทรายแล้วขับรถกลับบ้าน และขากลับผมก็เจอชิ้นส่วนสุดท้ายที่ต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด

นั้นคือภาพสามี สุวนันท์ คงยิ่ง ............. บนคัตเอาท์ หาเสียง...

และนั้นทำให้ผมต่อจิกซอทั้งหมดได้

เรื่องมันเริ่มจากการที่เชาวลิตไปหาฮุนเซนก่อน มีการพูดคุยกันหลายๆเรื่องโดยเน้นเรื่องความร่วมมือระหว่างกัน......

ในตอนขากลับนั้นเอง เชาวลิตได้คุยกับทักษิรและเตรียมการเพิ่มเติมจากที่คุยกับฮุนเซน

และเมื่อถึงเมืองไทย เชาวลิตก็ได้ให้สัมภาษณ์แก่นักข่าวอย่างที่เราได้ยินกัน
แล้ว...........ในภาพข่าวบางสำนักก็ให้ได้เห็นภาพเชาวลิตหลังแถลงข่าวคุยมือถือว่า.....

"เรียบร้อยแล้วครับ"

และทำให้ทักษิรพิมพ์ทวิตเตอร์ขอบคุณฮุนเซนก่อนที่จะมีสำนักข่าวใดออกข่าว.............ราวกั้บรู้ล่วงหน้ากับการแถลงของเชสวลิต

แต่

เหมือนลืมบอกเขมร ทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศเขาพูดคนละทางกับเชาวลิตและพูดไปทางเดียวกับสุเทพ

จากนั้นก็เขื่อได้ว่ามีการโทรไปคุยกับฮุนเซน ซึ่งคนโทรน่าจะเป็น

ทักษิณ และ สุเทพ,,,,ทั้ง๕ุ่เสนอบางสิ่งให้ฮุนเซน

และเมื่อฮุนเซนมาถึงเมืองไทย

เราก้ได้ยินคำสัมภาษณ์อย่างที่ได้ยินกัน..............และนั้นฮุนเซนได้ตอบเราว่าเขาเลือกรับอะไรจากใคร

สิ่งที่ทักษิณบอกฮุนเซนคือ....................ใกล้เลือกตั้งเต็มทีแล้ว อภิสิทธิ์กำลังจะยุบสภาแล้ว

และเขาจะชนะ..............และนั้นคือที่มาของคัตเอาท์หาเสียง
ที่มาของการสั่งให้เตรียม 10 ลงพื้นที่

ฯลฯ

ที่น่าคิดคือ ช่วงนี้ไม่น่าจะมีใครคิดถึงการเลือกตั้งได้เลย ไม่มีเหตุหรือปัจจัยใดๆทางการเมืองที่จะสร้างให้เกิดการเลือกตั้งได้

แล้วผมก็นึกถึงที่ ดร ปณิธาน ออกมาพูดเรื่องระเบิดกลางกรุงจนนายสุเทพออกมาปราม



ผมไม่สงสัยว่า ระเบิดกลางเมืองและการเลือกตั้งจะเกี่ยวกันไหม

แต่

ผมสงสัยว่าระเบิดกลาง เมือง การเลือกตั้ง จะเกี่ยวกับฮุนเซนไหมต่างหาก

เพราะหากใช่ ฮุนเซนปากเสีย แค่เริ่มเกมส์เท่านั้น

สงครามในพันทิพ เริ่มแล้ว......

ไม่รู้ใครสังเกตบ้าง

สังเกตว่านอกจากราชดำเนินแล้ว คนพันทิพส่วนใหญ่หาใช่เสื้อแดงไม่

ความจริงข้อนี้ชัดเจนเมื่อคราวเมษาทมฬของเสื้อแดง ที่ราชดำเนินแทบแตกเมื่อบรรดาห้องอื่นๆมาแสดงความเห็นจนเสื้อแดงกร่อยไปถนัดใจ

หลังเหตุการณ์เสื้อแดงบางคนได้ตั้งกระทู้ถาม และตรวจสอบ

เพราะความเชื่อของพวกเสื้อแดงในพันทิพส่วนมากเชื่อว่า บรรดาคนที่มาช่วงเมษาเป็นพวกสมัครใหม่คนของรัฐบาล

แต่........

สิ่งที่เสื้อแดงคนพบคือคนเหล่านี้เป็น login เก่า และมีตัวตนในพันทิพนานแล้ว

เพียงแต่อยู่ห้องอื่น และทนไม่ได้จริงๆกับพฤติกรรมเสื้อแดง จึงเข้ามา........

แต่เมื่อสงบเขาก็กลับไปห้องเดิมๆ

และ

ตอนนี้พวกเขากลับมาอีกครั้ง.............หลังฮุนเซนหยามคนไทย

เขาเหล่านั้นเปิดสงครามย่อยๆในพันทิพแล้ว และสงครามครั้งนี้เพิ่งเกิด

คนราชดำเนินแดงกำลังสู้กับคนทั้งพันทิพอีกครั้ง

แน่ละครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนครั้งเมษาทมิฬ

เพราะครั้งนั้นคนบางส่วนไปร่วมชุมนุมกับเสื่้อแดง

แต่........ครั้งนี้เขาอยู่กันเต็มๆ

ที่เราเห็นจึงเป็นความเดือดที่เริ่มแรงขึ้น

โดยส่วนตัวผมไม่รู้ว่าตอนจบจะเป็นเช่นไร

ผมรุ้แค่วันนี้ เสื้อแดงใจเขมรกำลัง...........หาที่ยืนยากเต็มทีแม้แต่ในบ้านตัว

วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ฮุนเซน และ พันทิพ ความเกี่ยวข้องที่น่าคิด

ไม่รู้ผมคิดมากไปเองไหม?

แต่ผมเริ่มรู้สึกว่ามันบังเอิญเกินไปไหมที่ฮุนเซนพูดมา 2-3 ประโยคที่น่าคิด

ประโยคแรกเขาเชื่อว่าทักษิณโดนกลั่นแกล้งจากรัฐประหารเมื่อปี 49 แล้วต่อเนื่องมาจนขึ้นศาล......และนี้เป็นคดีการเมือง....

ผมฟังประโยคนี้แล้วไม่แน่ใจใครไปเล่าอะไรให้แกฟังแต่.......มันคุ้นมาก มากจนแกกล่าวประโยคที่สอง

"หากคนทั้งโลกให้ความเห็นเกี่ยวกับการตัดสินคดีของอองซาน ซูจีได้ ทำไมเขาจะให้ความเห็นเกี่ยวกับ ทักษิณไม่ได้"

ผมอึ่งทันที

...........หากใครที่ตามเรื่องพวกนี้จะรู้ดีว่า การเทียบทักษิณกับซูจีนั้นเริ่มจากพันทิพ และมีเรื่อยๆจะว่าไปเว็บเสื้อแดงอื่นๆไม่มีใครเอาทั้งคู่ไปเปรียบกัน

จะว่าไปตัวเลือกของฮุนเซนมีเยอะไม่ว่าจะเป็น คานที แมนเดล่าและอีกมาก

การเสือกซูจีอาจบังเอิญ แต่การไปโยงกับประโยคแรกทำให้ทราบว่านี้เป็นข้อมูลที่มาจากแหล่งเดียวกัน...........พันทิพ


ความบังเอิญนี้ไปสอดคล้องกับเมื่อคราวที่รัฐบาลเปิดสภาให้เพื่อไทยสอบถามหลังแดงทมิฬเดือนเมษา

พบว่าสส หลายคนเอาข้อมูลมาจากพันทิพจนหน้าแตกกลางสภา.........


ผมย้อนกลับไปที่เฉลิมแจ้งว่าเขาส่งเทปกษิตไปให้ฮุนเซน.........แน่ละเขาปฎิเสธว่าพูดเล่น

ผมหวังนะ หวังว่าฮุนเซนจะเปิดพันทิพเอง อ่านเอง

หวังนะ คงไม่ใช่คนไทยส่งไปให้แก

เราควรทำอย่างไรกับกัมพูชา.....หลังประชุมอาเซียน

วันนี้ตอนได้ยินข่าวฮุนเซนบอกว่าจะไม่ส่งตัวทักษิณให้รัฐบาลไทยแล้วตกใจมาก
เมื่อพิจารณาเรื่องที่เขาวลิตไปพบวันก่อนเอามาผนวกแล้วน่าคิด

ว่ากันว่ามีการพบแบบ สองต่อสองในห้อง น่าประหลาดดีเมื่อคิดว่าเชาวลิตพูดเขมรไม่ได้ ส่วนฮุนเซนนั้นก็พูดไทยหรืออังกฤษไม่ได้

น่าจะมีสื่อกลางระหว่างทั้งคู่ที่พูดคุย และนั้นอาจหมายถึงเอกสารหรือจดหมาย

จาก..........เพื่อนเก่าฮุเซน ทักษิณ


หรืออาจจะยิ่งกว่านั้น อาจมีการยื่นมือถือให้ทักษิณ ฮุเซน และเชาวลิต ประชุม 3 คนพร้อมกัน

ไม่ว่าจะอะไรแล้วแต่ ผลการพบเจอครั้งนั้นมันเริ่มออกผลมาแล้ว

เชื่อว่าผลการพบกันครั้งนี้ น่าจะเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยและการเลือกตั้ง

ทางฮุนเซนอาจเชื่อเหมือนที่คนไทยหลายๆคนเชื่อคือจะมีการเลือกตั้งภายในปีหน้า

และเพื่อไทยจะชนะ..........ทักษิณจะกลับมาล้างบางศัตรู

และเขาก็ได้แสดงความคิดเห็นออกมาอย่างที่เราได้ยินกัน

วันนี้......เราคงทำได้แค่นั่งมองเพราะเราคือเจ้าบ้านเพื่อสมาชิกอาเซียนอีกมากที่ไม่รู้เรื่องไม่ควรได้รับผล

หลังจากการประชุม เราควรคิดได้แล้ว

จับขอทานเขมรในกทมกลับประเทศ.........ตอบโต้เขมร

จับขอทานเขมรแล้วส่งกลับดีไหม?

ผมไม่ได้พูดเล่น แต่กำลังบอกวิธีตอบโต้เขมรแบบเห็นภาพและไม่กระเทือนความสัมพันธ์ทางการเมือง ด้วย ขอทานเขมรที่เข้ามาเกลื่อนบ้านเรานั้น เกิดจากการที่เขมรไม่สามารถพัฒนาประเทศได้ดีเท่าที่ควร

จะว่าไปเขาโกงกินกันสูงมาก มากจนประชากรในประเทศยากจนสูงและไม่อาจพัฒนาได้อย่างเต็มทีเต็มกำลัง

นั้นทำให้ประชากรในประเทศเขายากจน จนต้องออกมาขอทานในประเทศเรา และไม่อยากจะบอกว่ามีจำนวนมาก มากจนการส่งกลับจะเป็นมหกรรมที่จะประจานความบกพร่องของรัฐบาลเขาไปทั่วโลก ได้ว่า

เขาจัดการเงินช่วยเหลือที่ต่างชาติให้อย่างไร
และขณะนี้ยังทำตัวกร่างซึ่งนั้นหมายถึงเงินช่วยเหลือกำลังจะนำไปใช่ผิดทางเช่นการทหาร หรือไม่????

วิธีนี้ผมไม่ได้คิดเอง แต่ประเทศที่ใช่มาแล้วคือมาเลย์ และใช่วิธีนี้กับอินโด

โดยส่งตัวคนหลบหนีเข้าเมืองชาวอินโดกลับประเทศ

ชาวอินโดเหล่านี้เข้ามาเลย์เพื่อมาทำงานเป็นคนงาน หลบหนีความยากจนในมาเลย์

มาเลย์ปล่อยเพราะเห็นเป็นเพื่อนบ้านและตัวเองก็ต้องการแรงงาน

แต่เมื่อเกิดปัญหาระหว่างกัน

ก็ส่งกลีบกลุ่มที่ผิดกฏหทายเข้าเมืองกลับ

เพื่อเตือนเรื่องฐานะทางเศรษฐกิจที่เพื่อนบ้านต้องพึ่งพากัน

จะมากร่างก็รังแต่จะเจ็บตัว

การส่งขอทานเขมรกลับไม่ได้ทำผิดกฏหมาย จะว่าไปแล้วเราควรทำมานานแล้ว


แต่ด้วยความเห็นใจเราเลยปล่อยเรื่อยมา จนกระเทือนความมั่นคงและก่อปัญหาอาชญกรรมในประเทศเราเสียด้วยซ้ำ

แต่ถึงวันนี้ บางทีเราก็ควรใช่เครื่องมือชิ้นนี้

เครื่องมือทางความมั่นคงและ เศรษฐกิจ ที่ไม่เกี่ยวกับการทหาร เครื่องมือที่ตั้งบนพื้นฐานกฏหมายระหว่างประเทศอย่างถูกต้อง

เครื่องมือนี้ไม่ได้ทำร้าย แต่ ตักเตือน........

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เรื่องที่น่ารู้+น่าคิด เมื่อ จิ๋ว เจอ ฮุนเซน

การที่เขาวลิตไปพบฮุนเซนนั้น ไม่ใช่เรื่องลับ ทั้งในไทยและเขมรต่างรู้ดี

แต่

การพบกันครั้งนี้จะว่าไม่ลับเลยก็ไม่ได้ มีบางสิ่งที่เกิดที่เขมร ที่ลับจนทั้งไทยและเขมรต้องเฝ้าดู

มีการยืนยันจากหลายฝ่ายว่า เชาวลิตและฮุนเซนปิดห้องคุยกัน สองต่อสอง

ความน่าสนใจคือ ฮุนเซนพูดภาษาอังกฤษหรือไทยไม่ได้.........

การปิดห้องคุยกันนั้น เชาวลิตคุยกับฮุเซนอย่างไร?คุยหรือยื่นจดหมาย

และ

เรื่องอะไร.................

จริงๆผมไม่ได้สนใจในสิ่งที่จิ๋วแถลง จะเรื่องท่าทีของฮุนเซนหรืออะไรแล้วแต่

เพราะนั้นคือสิ่งที่เปิดเผย หรือสิ่งที่ต้องการให้รู้

รู้หรือไม่รู้ไม่มีผลแตกต่าง แต่สิ่งที่ไม่เปิดเผยละ?

สิ่งที่คุยกัน สองต่อสองละ

บ้างก็ว่าเกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหาร

บ้างก็ว่าเกี่ยวกับกรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล

ฯลฯ

แต่ไม่ว่าทางใด ไม่มีสักคนที่เชื่อว่า นี้เป็นการเจออย่างมิตรที่จิ๋วอ้าง

เธอกลับมาอีกครั้ง.........ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล

จริงๆจะว่าไปผมลืมท่านไปแล้วนะ ลืมไปแล้วจริงๆ

ผมจำได้ช่วงที่มีเรื่องท่านบอก

พี่ไม่ใช่สีแดง สีแดงมันโง่ พี่มันสีดำ ใครย้อมสีเราไม่ได้หรอก........

วาทะ...... สีแดงมันโง่ ติดใจผมนะพอๆกับเรื่องที่พี่ยังไม่มอบเงินขายเสื้อนั้นแหละครับ

วันนี้ เมื่อมีข่าวอับมงคลที่ทำให้หุ้นตกอย่ารุนแรง

แล้วมีการค้นหาว่าใครหรืออะไรที่ปล่อยข่าวนี้ไป

จนมีการปล่อยซื่อย่อออกมาว่า หนึ่งในนั้นคือ ว.ช.

พี่เลยออกมาบอกกับทุกคนว่า

พี่ไม่เกี่ยว....... ว.ช. ไม่ใช่ วิระยา ชวกุล

พี่ครับ

ก็ไม่มีใครว่าอะไรนี้ครับ ไม่มีใครคิดว่าพี่หรอกครับไม่ต้องกลัว...........

ผมไม่แน่ใจว่าพี่ออกมาช่วงนี้ทำไมหรือเพราะอะไร.......

ผมคิดไม่ออก ที่พี่เงียบไปช่วงหนึ่งก็ดีกับตัวพี่เองอยู่แล้ว แล้วออกมาทำไม

หรือ

พี่อยากเป็นข่าว

แต่นะเป็นข่าวกับเรื่องแบบนี้ก็ไม่เหมาะ

ผมคิดไปเรื่อยๆจนมีเรื่องนึงแวบเข้ามาคือ

ช่วงเวลา...........

มันบังเอิญหรือไม่ที่ดาราจำนวนหนึ่งเดินเข้าพรรคเพื่อไทย ในช่วงนี้

มันบังเอิญหรือไม่ที่นายทหารจำนวนหนึ่งเดินเข้าพรรคเพื่อไทย ในช่วงนี้

และเธอกับนายทหารหลายคนมีความสัมพันธ์ที่ดี..............................

หรือ.........เธอกำลังจะเข้า เพื่อไทยตามนายทหารเหล่านั้น

และ

เธอน่าจะคิดในเรื่องหนึ่งที่นายทหารเหล่านั้นไม่คิด นั้นคือ ผู้สมัคร สส เพื่อไทยนั้น ใกล้เต็มเต็มที่แล้ว

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ภาพอุจาดที่ หัวลำโพง



สำหรับคนเดินทางภาพนี้อุจาดมาก
แปลกดี
ไม่มีเจ้าหน้าที่มาจัดการเลย..........

ช่อง 3 คุณใช่หัวใจหรือกำไร ทำงาน????

เมื่อกี้ผมไม่สบายใจเท่าไหร่นัก จะว่าไปทุกข์ใจนั้นแหละ

ทุกข์ใจเพราะช่อง 3 เอาซาไก จ๊อกกี้ยิม มาหากิน............

วันนี้ในรายการข่าวช่อง 3 ช่วงแตกประเด็นได้มีการนำภาพการชกครั้งสุดท้ายของ ซาไก จ๊อกกี้ยิม ที่ไปชกที่ญี่ปุ่นแล้วเสียชีวิต

ผมดูภาพข่าวและเทปอย่างสนใจ ก่อนที่จะมีความคิดแวบหนึ่งเข้ามาในหัวผม.......

ผมและคนดูอยากดู
แต่..........

แม่ซาไกละ เขาอยากดูภาพลูกชายถูกถลุงจนตายไหม?
หากซาไกเป็นน้องผมละ ผมอยากดูเขาถูกถลุงจนตายไหม?

ผมเองก็เรียนเรื่องนี้ ผมรู้ เทป ซาไก ตายนั้นๆใครๆก็อยากดู ใครได้ใครฉายก็ได้กำไร

แต่

ภาพพวกนี้เหมาะสมในการเผยแพ่รหรือเปล่าเมื่อคิดถึงคนที่รักเขา พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติเขา

เคยมีการไปถามหรือขออนุญาติพวกเขาไหม? ที่จะนำภาพการตายของคนในครอบครัวเขามาเผยแพ่รออกทางทีวีให้คนวิจารณ์หรือเรียกเรตติ้ง

ผม ดูภาพสุดท้ายของซาไกที่ล้มลงแล้วกระตุก ผมไม่รู้ในใจของคนในครอบครัวเขาที่เห็นภาพนี้จะทำใจอย่างไรกับภาพนั้น .....ใจจะสั่นไปตามแรงกระตุกของซาไกหรือเปล่า

ผมอาจจะใจอ่อนไป แต่

ช่อง 3 ผมถามหน่อยเถอะ

คุณใช่หัวใจหรือกำไร ทำงาน????

ทำไมไม่ใช่ เฉลิม

เมื่อครั้งพลังประชาชนยังมีอยู่

สมัคร ก็ถูกเลือกเป็นหัวหน้าพรรค และถูกวางตัวเป็นนายก(และได้เป็นจริงๆ) น่าแปลกที่ทางพรรคและทักษิณเอง ไมเฉลิม
ทั้งๆที่ทั้งเฉลิม และสมัครล้วนเป็นศิษย์เก่าประชาธิปัติเหมือนกัน สส กทม เหมือนกัน

พอสมัครพ้นจากตำแหน่งนายก สมชายก็มาแทน ไม่ใช่เฉลิม

แล้วใหญ่...............เมื่อถูกยุบพรรคตั้งพรรคใหม่เพื่อไทย

ตำแหน่งนายกทางเพื่อไทยยัง ดัน ประชา พรหมนอก..........คนนอกพรรคไม่เอาเฉลิมเช่นเดิม

มาวันนี้ พรรคก็หันไปใช่บริการของ เขาวลิต ..........

ทำไมไม่ใช่ เฉลิม?

ทั้งๆที่แกประกาศพร้อมเป็นนายก(แต่ไม่พร้อมเป็นคณะกรรมการพรรค กลัวโดนแบนทางการเมือง)

ทำไม

สำหรับคนที่ไม่เอาาเขาคงไม่แปลกครับ แต่นี้พวกเดียวกัน พรรคเดียวกัน.............

ทำไม

สุเทพ เกมส์นี้ ไม่ใช่ของคุณ

สุเทพชักอยู่ไม่ติดเสียแล้ว เมื่อบัญยัติออกมาแถลงไ่ม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญที่เขาไปรับปากกับภูมิใจไทยไว้

ก้าว ย่างของบัญยัติอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิบัติหัวหน้ากลุ่มทศวรรตใหม่ที่ออกมา นั้น ทำเอาสุเทพสะท้านเพราะ บัญยัติกำลังส่งสัญญาณให้ สส ในประชาธิบัติรุ่นกลางและเล็กมารวมตัวกันเพื่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ

เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญชักไม่ธรรมดาเสียแล้ว มันมีผลอย่างมาก จะว่าไปมีผลต่อนายสุเทพอย่างไม่น่าเชื่อ

มีเรื่องลับที่ไม่ค่อยลับว่า วันที่ นาย นิพนท์ น้องเขยนายสุเทพลาออกนั้น กลุ่มนาย บัญยัติ ได้ร่วมประชุมด่วนที่ รร ดุสิตธานี

ไม่มีใครรู้ว่าประชุมครั้งนี้ว่าด้วยเรื่องอะไร แต่เว่วๆมาเบาๆว่า

กลุ่ม นาย บัญยัติ ต้องการเขี่ยสุเทพออกไปจากความไม่พอใจหลายอย่าง ต้งแต่การไปตกลงร่วมรัฐบาลที่ทำให้ประชาธิบัติแทบไม่เหลือตำแหน่งใดๆในมือ เลย

ยิ่งแล้วใหญ่กับการปฎิบัติตัวและการทำหน้าที่ที่ผ่านมา กลุ่มนาย บัญยัติจึงตัดสินใจในวันนั้นที่จะคว่ำสุเทพ........

แล้ววันนี้ สิ่งที่คุยวันนั้นก็ออกผล บัญยัติออกมาเป็นแกนนำในการล้มการแก้รัฐธรรมนูญ..........และได้ผลทีเดียว

อย่า

อย่าได้ไปคิดเชี่ยวว่างานนี้ นายกเราจะเสียเชิง

ใคร จะสังเกตบ้างละว่า ก้าวย่างนี้มาพร้อมๆกับการประกาศไม่แก้รัฐธรรมนูณของนายก............หากไม่ ทำประชามติและจะไม่ทำหากฝ่ายค้านถอนตัวไม่ร่วมแก้ไข..........

แล้วยังสำทับอีกว่าตัวเองไม่อยากแก้หรอก แต่ถ้าสภาและประชาชนต้องการก็จะแก้

การพูดครั้งนี้ก่อนหน้าบัญยัติออกมาแถลงไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญไม่นาน

ว่าง่ายๆคือ มาเป็นจังหวะสอดคล้องกันจนปิดไม่มิด............

จริงๆแล้วหลังปัญหาเรื่องการแต่งตั้ง ผบตร อภิสิทธิ์ได้เดินเข้าไปปรึกษานาย ชวนมาก ขึ้น
แน่ละเรื่องนี้ไม่เป็นที่ปิดบัง และอีกเรื่องที่ไม่ปิดบังคือเดินเข้าหานายบัญยัติในฐานะผู้อาวุฒโสพรรคด้วย.........

เรื่องทำเอานายสุเทพปั่นป่วนจนต้องเชิญนายเนวินไปทอดกฐินที่บ้านตัว สุราษร์ เพื่อเตือนคนในพรรคว่า

เขาคือคนคนเดียวที่ประสานกับนอกพรรค.........

แต่ นั้นแหละ การกระทำของเขากลับเป็นการเร่งให้นายบัญยัติออกมาแถลงไม่เห็นด้วยกับการแก้ รัฐธรรมนูญเร่งให้สมาชิกประชาธิปัติออกมาขับไล่เขามากขึ้น

พูดง่ายๆวันนี้ใครๆก็หงายไพ่จะไม่เอาเขาแล้ว

สุ เทพวันนี้จึงวิ่งนอกพรรคให้วุ่นเพื่อกดดันคนในพรรคว่าตนยังมีราคา ล่าสุดเท่าที่ทราบโทรไปคุยกับ ชทพ ให้ออกมาหนุนการแก้รัฐธรรมนูญอีก.......

สุเทพ ผมอยากบอกคุณไว้อย่าง วันนี้ เกมส์นี้ ไม่ใช่ของคุณ

3G กับทักษิณ

วันก่อนไปเจออาจาร์ยท่านหนึ่ง ทานเป็นทหารครับและเป็นหนึ่งใน กทช ที่เคยสอนผมตอนเรียนโท ท่านสอนวิชาเกี่ยวกับการสื่อสารและ IT ท่านเล่าให้ฟังว่า

3 G เริ่มครั้งแรกในโลกเมื่อไหร่และที่ประเทศใด และท่านบอกผมว่า

"หากเราไม่มีนายกซื่อทักษิณ ชินวัตร.......บางทีเราอาจเข้าสู่ 3G ตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้ว"

ท่านเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อตอนทักษิณเข้ามาเป็นนายกนั้น คนในวงการสื่อสารดีใจมาก เพราะเป็นคนในวงการสื่อสาร จึงน่าจะทำให้วงการนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว

แต่

ความจริงไม่ เป็นเช่นนั้น การเติบโตและพัฒนาการในวงการสื่อสารในยุคทักษิณกลับช้ามาก ช้าจนหากพิจารณากันดีๆ EDGE หรือ 2.5G ของเมืองไทยก็ช้ากว่าชาวบ้านเขามาก

ทั้งๆที่นายกตอนนั้นคือทักษิณ มาจากวงการสื่อสาร

การเข้าสู่ระบบ 3G ของโลกนั้นเริ่มครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2001 พูดง่ายๆคือยุคทักษิณเป็นนายก 3G ก็เริ่มแล้ว

ใน ยุค ชวน 2 ก่อนหมดอำนาจไป สุเทพได้เปิดให้มีมือถืออีกระบบที่ตอนนั้นรู้จักในนาม 1900 หรือ ไทยโมบาย ปัจจุบันรู้จักกันในนาม CDMAแลัว HUTCH

การกระทำครั้งนั้นต้องยอมรับกันก่อนว่า ปชปต้องการทำลายขุมทรัพย์ของ ทักษิณ ที่จะเข้าสู่วงการเมือง

CDMA มีศักยภาพที่เหนือกว่า GSM มากนัก เทคโลยีของมันเองเหนือกว่ามากหากเทียบในระยะที่เท่ากัน

แต่มันถูกดองทุกอย่างโดยทักษิณ เรื่องนี้คนในวงสื่อสารและคนภายนอกรู้ดี

.....................................................

ทักษิณ ไม่ต้องการให้ 3G มาถึงเมืองไทยเท่าไหร่นัก แน่ละในยุคเขา 3G มีแล้ว

แต่ เขาไม่ได้พูดถึงมันเลย CDMA ก็ไม่ได้รับการพัฒนา จะว่าไปอะไรก็ตามที่จะทำให้รายได้ของบริษัทเขาลดลง เขาขวางทุกทาง

เกมส์เริ่มเปลี่ยนเมื่อ DTAC ถูกเทคโอเวอร์โดย เทเลนอร์

หากใครย้อนไปอ่านช่วงที่เทเลนอร์เข้ามาถือหุ้น DTAC จะพบว่าผู้บริหารของเทเลนอร์และซิกเว้ ประกาศพร้อมเข้าสู่ 3G หากรัฐบาลอนุญาติ

พูดง่ายๆคือ เมืองไทยน่าจะมี 3G ตั้งแต่ปี 2005 หรือ 4 ปีที่แล้ว.........

จริงๆ จะว่าไป HUTCH เองก็ประกาศว่าจะนำระบบ CDMA-EVO ซึ่งเป็น 3 G ในแบบ CDMA มาเผยแพ่รตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วด้วย(ผมทดลองใช่ ให้ความเร็วประมาณ 4 M)

แต่

ทุกอย่างถูกดอง

เพราะ ความก้าวหน้าของคนอื่นที่ร่วมธุรกิจ เป็นสิ่งที่ทักษิณไม่ต้องการ เหมือนกรณีรถไไฟฟ้าไปฝั่งธนฯและอ่อนนุช ที่กทม ฝ่ายใต้การนำของอภิรักษ์ประกาศความพร้อมมานานแล้ว แต่ถูก ครม ทักษิณดองไว้

เมื่ออภิรักษ์ทำเองก็ถูกต่อต้านจากคนของทักษิณ..................มือถือก็ไม่ต่างกัน

ท้ายยุคทักษิณ ทักษิณพิจารณาเรื่องทุนที่จะเข้าสู่ 3G แล้ว พบว่าตัวเองไม่พร้อม

แต่

จะแช่ 3G ต่อก็ไม่ได้เพราะเพื่อนบ้านอาทิมาเลย์ ลาว เวียดนาม กำลังทะยอยเข้าสู่ 3G

เมื่อ การแช่ต่อไปทำไม่ได้ จึงนำมาซึ่งการขาย AIS ให้กลุ่มทุนที่มีความพร้อม เพื่อตัวเองจะได้เดินออกจากสงคราม 3G อย่างร่ำรวยด้วยเงินทุน แต่ยังควสถานภาพผู้คุมเกมส์ หรือรัฐบาลอีกต่อไป

เทมาเสคจึงเข้ามา และพันธมิตรก็เกิดขึ้น.............และเขาก็จากไป

ใน วันนี้หากคุณสังเกตดู ไม่มีใครในฝ่ายค้านหรือคนเสื้อแดงระดับแกนนำพูดเรื่อง 3G เลย จะมีแต่พวกระดับล่างที่ไม่ทราบที่มาเท่านั้นที่คอยพูดแต่ว่า

หากทักษิณยังอยู่ เราคงเข้าสู่ยุค 3G ไปนานแล้ว ในความจริงแล้ว

หากเขาไม่มีอำนาจ เราอาจเป็นชาติที่ 2 รองจากสิงคโปรที่เข้าถึงมัน

“อริสมันต์” ประกาศ.....อยู่ที่หัวหินเรียบร้อยแล้ว

วันนี้(20ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.สัญจร ที่โรงแรมดุสิตธานี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในวันนี้ ตนจะไม่นำกลุ่มคนเสื้อแดงบุกไปก่อกวน แต่จะมีคนเสื้อแดงส่วนหนึ่ง เข้าสังเกตการณ์และในวันที่ 23 ต.ค. ตนจะนำคนเสื้อแดงไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้นำอาเซียน กรณีถูกเจ้าหน้าที่ ใช้ความรุนแรงทำร้ายที่พัทยา เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าจะไม่มีใครสามารถห้ามได้ ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ขู่เอาไว้ เพราะ
ขณะนี้ ตนได้เดินทางไปอยู่ที่หัวหินเรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน ก็ไม่รับปากว่าการยื่นหนังสือในครั้งนี้จะเกิดความรุนแรงหรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ซึ่งในวันที่ 21 ต.ค. แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จะมีการประชุม เพื่อกำหนดยุทธวิธีที่จะเคลื่อนขบวนอีกครั้ง

ด้าน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ-ทหาร ได้มีการซักซ้อมแผน ตามประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อเตรียมพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อยการประชุม ค.ร.ม.ในวันนี้ และการประชุมอาเซียนแล้ว โดยหน่วยงานด้านการข่าวได้รายงานว่า ยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

http://www.dailynews.co.th/newstartpage ... ntID=27124


เรียนเชิญพี่น้องเมืองเพชร และ ประจวบ ตามสบายครับ